Shaman Adventure ไปลุยนรกกับพี่สักสิบปีมั๊ยน้อง?
เมื่อหมอผีกับกุมารทองดวงกุด ถูกสิบล้อเสยตกสะพาน...พวกเขายังไม่ตาย(หรือตายอีกรอบ) แต่สิ่งที่ตามมาคงต้องเรียกว่า..ป่าช้าแตก!
ผู้เข้าชมรวม
5,481
ผู้เข้าชมเดือนนี้
46
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ Небо ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Небо
"สวัสดี...ข้าพเจ้า Black_teddy จาก ((รับวิจารณ์นิยายเเบบอ่านจริงไม่เม้นมั่วBY MONKEY'FRIEND))"
(แจ้งลบ)1. การใช้ภาษา (8/10) -มีคำผิดนะจ๊ะ จะไล่บอกเป็นตอนๆไปนะ เพื่อสะดวกในการแก้ไข (Intro หรือบทนำ ให้นับเป็นตอนหนึ่ง) *คำผิดจากตอนที่ 1: (Intro) ตรงสรรพนามที่แนะนำตัวอาจารย์คง ไรทเตอร์ใช้แทนว่า มัน ซึ่งควรใช้คำว่า "เขา" แทนมากกว่า เพราะอาจารย์คงเป็นผู้ชาย ถ้าในบทบรรยายเราต้องใช้สรรพนามให้ถูกต้อง คนเป็นเขา เธอ ท่าน หรือถ้าเป็น สัตว์ สัตว์ประหลา ... อ่านเพิ่มเติม
1. การใช้ภาษา (8/10) -มีคำผิดนะจ๊ะ จะไล่บอกเป็นตอนๆไปนะ เพื่อสะดวกในการแก้ไข (Intro หรือบทนำ ให้นับเป็นตอนหนึ่ง) *คำผิดจากตอนที่ 1: (Intro) ตรงสรรพนามที่แนะนำตัวอาจารย์คง ไรทเตอร์ใช้แทนว่า มัน ซึ่งควรใช้คำว่า "เขา" แทนมากกว่า เพราะอาจารย์คงเป็นผู้ชาย ถ้าในบทบรรยายเราต้องใช้สรรพนามให้ถูกต้อง คนเป็นเขา เธอ ท่าน หรือถ้าเป็น สัตว์ สัตว์ประหลาดให้ใช้ มัน ในกรณีที่ต้องการใช้สรรพนามบุรุษที่สามแทน เด็กหนุ่มตาเเบกโพล่ง ต้องเป็น เด็กหนุ่มตาเบิกโพลง สุ๊ดยอด >> สุดยอด (ไม่ต้องเติมวรรณยุกต์ เพราะว่าจะกลายเป็นภาษาวิบัติในงานเขียนโดยไม่ตั้งใจ) *ตอนที่สอง : ใครบังอาจมาล้อเลียนท่านเอกภพผู้นี้ฟ่ะ "ฟ่ะ" เป็น ฟะ แล้วก็ ห๊ะ >>ฮะ และคำศัพท์ที่ใช้กับพระสงฆ์มีสองจุดที่อ่านแล้วรู้สึกตงิดๆ คือ คำว่าล้มหมอนนอนเสื่อ เราเอาไว้ใช้กับบุคคลทั่วไปในการพูดคุย แต่ในบทบรรยายเราต้องใช้ศัพท์ให้ถูกต้อง และตรงหลวงตาป่วยให้ใช้เป็น หลวงตาอาพาธ เพราะอาพาธเป็นศัพท์ที่ใช้กับพระสงฆ์ ส่วน "มหา'ลัย" เราสามารถใช้ในบทสนทนาระหว่างตัวละครได้ แต่ในบทบรรยายไม่ควรใช้ ควรใช้คำว่า "มหาวิทยาลัย" แทน *ตอนสาม : "วันนี้จะกินอะไรดีน๊า" น๊า >> น้า ถ้าเติมไม้ตรีแล้ว วิบัติทันทีเลยนะจ๊ะ *ตอนสี่ :ไม่มีคำผิดจ้ะ *ตอนห้า : "ไม่ได้กินหมูหันดีๆแบบนี้หร๊อก" >> หรอก(ไม่ต้องเติมไม้ตรี) "บ่นเป็นตาแก่ขณะใช้เท้าเขี้ย" >>เขี่ย อ้ะจ๊าค >> อะจ้าก *ตอนเจ็ด: นะค้าบ >> นะคร้าบ *ตอนแปด : หึหึหึหึ ให้เติมไม้ยมกไปเลยจ้ะ หึๆๆๆๆๆ *ตอนเก้า : สลบสไล >> สลบไสล "ไม่เห็นตะยากตรงไหนเลยลุง ผมเป็นปราบปีศาจตนนี้จริงมั๊ย" ไรเตอร์ตกคำว่า "คน" ผมเป็นคนปราบปีศาจ...ง *ตอนสิบเอ็ด : ชีวิติ >>ชีวิต (เป็นคำผิดที่อาจเกินจากความผิดพลาด 55+ ประมาณพิมพ์เพลินของไรทเตอร์ - ในภาคการบรรยายถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว บรรยายได้ลื่นไหลและฮามาก ปรับปรุงเรื่องคำผิดอีกนิดเท่านั้นเอง 2. เนื้อเรื่อง+ตัวละคร (10/10) -เป็นนิยายที่มีพล็อตแปลกมากๆๆๆๆๆๆๆ เนื้อเรื่องไม่เหมือนใครดี แล้วก็ฮามาก เป็นนิยายที่ร่วมสมัยแต่ไม่ทิ้งกลิ่นอายความเป็นไทยไปสักนิด โดยส่วนมากแล้วนิยายแฟนตาซีจะมีตัวเอกที่มีชื่อเรียกยากมากๆ ออกไปทางยุโรปซะส่วนใหญ่ แต่ตัวเอกเรื่องนี้กับมีชื่อเป็นไทย มีวิถีชีวิตแบบไทยๆ และชื่อตัวละครจำง่าย พื้นๆแต่ว่ามีเอกลักษณ์ที่จดจำได้ดี เป็นเนื้อเรื่องที่ถ้ามองเผินๆก็นึกว่าธรรมดา ทะลุมิติอะไรแบบนี้ แต่ถ้าลองอ่านนิยายเรื่องนี้แล้วจะรู้ว่า "เนื้อเรื่องไม่ธรรมดาเลยนะเธอ" ๕๕ 3. ความคิดสร้างสรรค์/น่าสนใจน่าติดตาม (10/10) -เป็นนิยายที่น่าติดตามมากๆ สร้างสรรค์ตรงที่พล็อตเรื่องและกลิ่นอายความเป็นไทยที่นิยายเรื่องนี้เอาไปผสมกับความเป็นตะวันตก นักเขียนกล้าที่จะฉีกกรอบของนิยายแฟนซีมากๆ พระเอกไม่ได้เก่งฉกาจโอเวอร์ปล่อยพลังตู้มต้าม ไม่ได้ฉลาดอัจฉริยะ ดูบ้านๆ รั่วๆ แถมยังมีพลังคุณไสย เป็นนิยายที่น่าติดตามและน่าดันให้ติดท็อปมากๆ (ว่าแต่จะติดท็อปแฟนซีหรอ ติดท็อปขำขันดีกว่ามั้ง ๕๕ ล้อเล่นจ้ะ) 4. การจัดหน้า+ตกเเต่งหน้าบทความ (8.5/10) -เมื่อขึ้นตอนใหม่ หรือ สถานการณ์ใหม่ ให้ย่อหน้าด้วยการกด tab เพื่อให้ตัวอักษรไม่ดูมาชิดขอบเกินไป แต่ขนาดตัวอักษรและฟอนต์โอเค.แล้ว -การตกแต่งบทความดูเรียบง่ายดี อยากให้มีแผนที่ของอาณาจักรที่เอกภพและเจ้าจุกหลงไปมาเพื่ออรรถรสในการอ่าน แล้วก็อิมเมจของตัวละครเอาของเดลฟี่ และเดลฟีโก้ ด้วยก็ดีนะ :) -Banner จะทำก็ได้เพื่อเป็นการโปรโมตนิยายเราให้คนคลิกเข้ามาดู 5. ข้อนี้จะวิจารณ์ตามประเภทนิยายค่ะ+คะเนนพิเศษ (10/10) -เป็นนิยายที่เริ่ดมากเรื่องนึง ในด้านภาษาการบรรยายอะไรนักเขียนต้องฝึกเอาเองเพราะนักเขียนแต่ละคนจะมีสำนวนการเขียนที่แตกต่างกัน พอเขียนไปเรื่อยๆเนื้อเรื่องจะเข้มข้นขึ้นมา ถามว่าเดี๋ยวนี้นิยายแฟนตาซีเยอะไหม ตอบเลยว่าเยอะพอๆกับรักหวานแหวว พล็อตเรื่องเกลื่อนไหม ตอบเลยว่า เกลื่อนและพล็อตซ้ำกันเยอะมาก แต่นิยายของคุณแหวกออกมาได้แล้ว คือไม่เหมือนกับนิยายแฟนตาซีทั่วไป เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วหน้าที่ของคุณคือการประคองนิยายเรื่องนี้ให้จบ และข้าน้อยนักอ่านตาดำๆคนนี้อยากจะเฝ้ารอว่าสักวันนึง "Shaman Adventure" จะได้ตีพิมพ์เป็นเล่มออกมา :) 6. ภาพรวม(ทั้งหมด) + คะเเนน เต็ม100 -ปรับปรุงคำผิดและก็อัพบ่อยๆ เป็นนิยายที่ไม่เหมือนใครดี ทำมาได้ขนาดนี้แล้วก็ทำต่อไปล่ะ อย่าทำให้ฟ้าผิดหวัง :') นักอ่านต่างหากล่ะ55 95.5/100 :'D ลงชื่อผู้วิจารณ์ Black_teddy อ่านน้อยลง
black-teddy | 23 ก.พ. 54
10
0
"บทวิจารณ์ Shaman Adventure ไปลุยนรกกับพี่สักสิบปีมั๊ยน้อง?"
(แจ้งลบ)นิยายแนวแฟนตาซีเรื่อง Shaman Adventure: ไปลุยนรกกับพี่สิบปีดีมั๊ยน้อง? ของ Lady Drama (โลมาสีฟ้า) กระตุ้นความสนใจให้อยากอ่านตั้งแต่ชื่อเรื่องแล้ว และเมื่ออ่านเรื่องที่โพสต์ไว้จำนวน 11 ตอนก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะเป็นเรื่องของเอกภพ หมอผีรุ่นเยาว์จากอยุธยา กับ “ไอ้จุก” กุมารทองลูกรัก ที่รู้จักการใช้คาถาและควายธนูเพื่อปราบบรรดาผีๆ แบ ... อ่านเพิ่มเติม
นิยายแนวแฟนตาซีเรื่อง Shaman Adventure: ไปลุยนรกกับพี่สิบปีดีมั๊ยน้อง? ของ Lady Drama (โลมาสีฟ้า) กระตุ้นความสนใจให้อยากอ่านตั้งแต่ชื่อเรื่องแล้ว และเมื่ออ่านเรื่องที่โพสต์ไว้จำนวน 11 ตอนก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะเป็นเรื่องของเอกภพ หมอผีรุ่นเยาว์จากอยุธยา กับ “ไอ้จุก” กุมารทองลูกรัก ที่รู้จักการใช้คาถาและควายธนูเพื่อปราบบรรดาผีๆ แบบไทย แต่ต้องหลุดเข้าไปยังดินแดนแฟนตาซีที่มีตั้งแต่มังกร ปีศาจ พ่อมด และสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อน พวกเขาจะประยุกต์สิ่งที่รู้เพื่อเอาตัวรอดจากบรรดาปีศาจและสัตว์แปลกๆ ในดินแดนใหม่นี้ได้หรือไม่ อย่างไร ความน่าติดตามของนิยายเรื่องนี้อยู่ที่ว่าทิศทางของเรื่องปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาจนไม่อาจคาดเดาได้ จากเดิมคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดในเรื่องนี้คือการพยายามหาทางกลับบ้านของเอกภพและจุก แต่เมื่อเรื่องเริ่มดำเนินไปก็ไม่แน่ใจแล้วว่าอะไรคือภารกิจหลักของเขาทั้งสองที่ผู้เขียนต้องการกันแน่ เพราะเมื่อเอกภพและจุกได้พบกับเดลฟี่ที่ถูกปีศาจเดลฟีโก้เข้าสิง พวกเขาก็ดูเหมือนว่าพร้อมที่จะเปลี่ยนเป้าหมายตนเองเพื่อหาทางช่วยนำวิญญาณของเดลฟีโก้ออกจากร่างเดลฟี่ให้จงได้ แต่ต่อมาเรื่องก็กลับพลิกผันอีก เมื่อเอกภพทำสัญญากับเดลฟีโก้ว่าเขาจะช่วยทำเขากลายเป็นปีศาจแห่งความมืด เพราะเป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยให้เขาตามหาร่างที่แท้จริงของเขาจนเจอ เพื่อจะได้กลับไปยังหมู่บ้านของตนได้เสียที ขณะเดียวกัน Lady Drama ก็เริ่มปูเรื่องให้เอกภพมีความสามารถคล้ายคลึงกับซาแมน (ผู้ที่มีความสามารถในการคุมวิญญาณและซากศพได้) ซึ่งซาแมนนับเป็นบุคคลสำคัญและเป็นที่ต้องการของทุกอาณาจักรในขณะนี้ การเปลี่ยนแปลงจุดเน้นของเรื่องไปในหลากหลายทิศทางเช่นนี้ ทำให้โครงเรื่องหลัก (plot) ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของนิยายพร่าเลือนไปอย่างน่าเสียดาย จนไม่อาจแน่ใจว่านักเขียนต้องการจะนำเสนอเรื่องราวใดกันแน่ ด้วยเหตุนี้จึงอยากให้ Lady Drama เน้นแก่นเรื่องหลักที่ต้องการเสนอให้ชัดเจนมากขึ้นก็จะช่วยให้ผู้อ่านจับทิศทางของเรื่องได้มากกว่านี้ นิยายเรื่อง Shaman Adventure: ไปลุยนรกกับพี่สิบปีดีมั๊ยน้อง? นับว่าแตกต่างจากนิยายแนวแฟนตาซียอดนิยมทั้งหลาย เพราะเรื่องนี้นำแฟนตาซีแบบไทยๆ คือความเชื่อทางไสยศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็น หมอผี กุมารทอง ควายธนู คาถา หม้อดิน มีดหมอ และวิธีการไล่ผีต่างๆ มาผสานกับแฟนตาซีแบบตะวันตก ทั้งเรื่องราวของปีศาจ มังกร หรือพลังเวทต่างๆ ได้อย่างลงตัว ซึ่งสร้างความน่าสนใจให้กับเรื่องได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน ในเรื่องนี้ดูเหมือนว่า Lady Drama จะเปิดทางให้ไสยศาสตร์แบบไทยดูมีความขลังและดูจะมีพลังเหนือว่าพลังเวทแบบตะวันตกเสียอีก โดยเฉพาะฉากการปราบปีศาจเดลฟีโก้ ปีศาจผู้ชั่วร้ายที่คอยยื่นข้อเสนอต่างๆ ให้กับมนุษย์เพื่อแลกเปลี่ยนกับสิ่งที่มันต้องการ จะเห็นได้ว่าคนทั้งหมู่บ้านแอปเปิ้ลสีทองร่วมกันใช้พลังเวทที่มีทั้งหมดแล้ว ก็ไม่อาจจะเป็นคู่ต่อสู้ของปีศาจตนนี้ได้ แต่ท้ายที่สุดเดลฟีโก้ต้องสยบยอมให้กับการสะกดวิญญาณและการบริกรรมคาถาบูชาพุทธคุณของเอกภาพแทน ขณะเดียวกัน Lady Drama ไม่เพียงแต่ใช้ความรู้ทางไสยศาสตร์ที่ติดตัวมาของเอกภพเพื่อต่อสู้กับปีศาจร้ายเท่านั้น แต่เขายังต้องประยุกต์สิ่งที่ตนรู้เข้ากับการดำรงชีวิตเพื่อเอาตัวรอดในดินแดนใหม่แห่งนี้ไปพร้อมกันด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเพ่งกสินเพื่อจุดกองไฟประกอบอาหาร การใช้พลังคาถาเหล็กไหลเพื่อเสกให้ใบไม้กลายเป็นมีดใช้สำหรับประกอบอาหาร หรือแม้แต่การบริกรรมคาถาสร้างความแข็งแกร่งให้ไอ้จุก เพื่อไปจับหมูป่ามาเป็นอาหาร ขณะเดียวกันเมื่อเอกภพหลงมายังดินแดนใหม่นี้อย่างไม่ตั้งใจ เขาก็ไม่ได้เป็นเหมือนกับพระเอกนิยายแฟนตาซีทั่วไป ที่มักจะปรับตัวเข้ากับโลกใหม่ด้วยการเรียนรู้พลังเวทต่างๆ แต่เขาก็ยังติดกับความชำนาญเดิมๆ เพราะเมื่อมีโอกาสก็แสวงหาสิ่งที่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็น เทียนไข เชือก ด้าย เข็ม ตุ๊กตาผ้า เมล็ดข้าว หม้อ หวาย หรือมีดดีๆ (เพื่อทำมีดหมอ) ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ก็นับเป็นอาวุธและเครื่องมือทำมาหากินสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับหมอผีไทย นอกจากนี้ยังเห็นว่านักเขียนสอดแทรกความเห็นของตนเข้ามาเป็นระยะๆ ด้วยกลวิธีต่างๆ นับตั้งแต่การสะกิดผู้อ่านเพื่อบอกว่ากำลังจะเปลี่ยนทิศทางของเรื่อง เช่น “ตัวเอกของเรื่องจึงถูกเปลี่ยนเป็นเดลฟี่และดาลีนด้วยประการฉะนี้...” อีกทั้งยังให้ตัวละครออกมาเขียนเหน็บแนมนักเขียน เช่น “ ‘ดูเหมือนเรื่องนี้มันจะซับซ้อนกว่าที่เราคิดนะเนี้ย’ และดูเหมือนเขาจะถูกคนเขียนสกัดดาวรุ่งเข้าให้อีกแล้วนะเนี้ย เฮ้อ...ช้ำใจจริงๆ” และยังวิพากษ์และล้อเลียนนิยายแฟนตาซีแนวโรงเรียนไว้อย่างเด่นชัดมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากที่กล่าวถึงวิทยาลัยเรดดิคอฟ ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำที่เก่าแก่ มีชื่อเสียง และสำคัญที่สุดของอาณาจักร ลักซอล์ โดยให้เอกภพเป็นคนแสดงความเห็นว่าเขาไม่คิดจะเข้าไปเรียนในโรงเรียนแห่งนี้ว่า “แล้วไอ้เรดดิคอฟเนี้ยได้ชื่อว่าระบบรักษาความปลอดภัยเยี่ยมสุดๆ และมีคนสำคัญอยู่ในนั้นเยอะใช่มั้ย การที่เราเข้าไปเป็นนักเรียนในนั้นแล้วคิดจะชิ่งออกมาเงียบๆ ล่ะก็คงเป็นเรื่องยากซะยิ่งกว่ายาก ฉันเห็นมาหลายเรื่องแล้ว อิตอนที่พวกตัวเอกของเรื่องจะแอบหนีออกจากโรงเรียนหลังเสร็จภารกิจ เห็นแต่ได้เลือดบวกปางตายกันแทบทั้งนั้น หรือไม่ก็ไปพบมิตรภาพแสนงดงามในโรงเรียนจนลืมว่าตัวเองเข้าไปทำอะไร ต่อมาดันมีพ่อเป็นพระราชาโผล่มาจากไหนไม่รู้ กลายเป็นไฮโซแถมโดนศัตรูปองร้ายจนต้องสู้มันแทบทั้งเรื่อง ... ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมอยู่ๆ ระบบรักษาความปลอดภัยของโรงเรียนดันมาห่วยแตกเอาตอนศัตรูจะบุกมาฆ่าทุกทีก็ไม่รู้” ในเรื่องนี้ ความโดดเด่นของรูปร่างหน้าตาตัวละครดูจะไม่ใช่สิ่งสำคัญที่นักเขียนสนใจ มากเท่ากับลักษณะนิสัยเฉพาะของตัวละคร เพราะผู้อ่านจะจำจดตัวละครแต่ละตัวได้จากลักษณะเฉพาะตัวอันโดดเด่นมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเอกภพ หมอผีวัยรุ่นที่เก่งเรื่องเวทมนตร์คาถา แต่แพ้เลือดที่พุ่งใส่ จุก กุมารทองวัย 2-3 ชวบ ที่บ้าการ์ตูน และมีอุลตราแมนเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ในดวงใจ หรือ เดลฟีโก้ ปีศาจที่ชั่วร้ายที่สุด มีพลังเวทสูง และมีไฟนรกเป็นอาวุธ แต่รักษาสัจจะและไม่เคยผิดสัญญากับใคร แม้แต่สัญญากับมนุษย์ก็ตาม นอกจากนี้ อารมณ์ขันที่แทรกอยู่เป็นระยะๆ ก็สร้างความสนุกสนานและชวนติดตาม โดยเฉพาะความคิดแบบเด็กๆ ของจุก ที่พบมังกรตัว “เป็นๆ” ครั้งแรกก็เรียกมังกรว่า “ควายธนู” แต่เมื่อเอกภพแก้ความเข้าใจผิดว่านี่คือมังกร ซึ่งก็เหมือนกับท่านเชนลอน ตัวละครในการ์ตูนเรื่องดาร์กอนบอล ผิดกันก็แค่สีผิวเท่านั้น จุกก็เปลี่ยนท่าทีปฏิบัติกับมังกรตัวนั้นราวกับแฟนคลับปฏิบัติกับซุปเปอร์สตาร์ในดวงใจ หรือการที่ให้มังกรส่งเสียงร้องอย่างตกใจที่โดนผีหลอก เมื่อจู่ๆ จุกก็หายตัวไปต่อหน้าต่อตา ผู้วิจารณ์พบว่าปัญหาในการเขียนของ Lady Drama ไม่ได้อยู่ที่ภาษาเขียน ทั้งในส่วนของบทบรรยายและบทสนทนา แต่ปัญหากลับไปอยู่ที่คำผิด ซึ่งกระจายอยู่โดยตลอดเรื่อง คำผิดที่พบ คือ กะพริบตา เขียนเป็น กระพริบตา ขู่เข็ญ เขียนเป็น ขู่เข็น มอเตอร์ไซค์ เขียนเป็น มอเตอร์ไซน์ กรงเล็บ เขียนเป็น กงเล็บ บริกรรมคาถา เขียนเป็น บริกรรมคาทา ทรมาน เขียนเป็น ทรมาณ อานิสงส์ เขียนเป็น อานิสงค์ อำมหิต เขียนเป็น อัมหิต แข็ง เขียนเป็น แขง เหรอ / หรือ เขียนเป็น หรอ แล้วไง / แล้วอย่างไร เขียนเป็น แล้วไหง่ นอกจากนี้ยังมีการใช้คำผิดความหมาย เช่น หมูป่ามีผมสีส้มอยู่บนหัวหย่อมหนึ่ง น่าจะเปลี่ยนเป็น หมูป่ามีขนสีส้มอยู่บนหัวหย่อมหนึ่ง และคำที่ผิดอีกส่วนหนึ่งมาจากการใช้คำที่มีรูปวรรณยุกต์ตรี (หรือไม้ตรี) เพราะ Lady Drama ใช้อักษรต่ำกับรูปวรรณยุกต์ตรีเสมอ ทั้งๆ ที่หลักภาษาไทยที่ถูกต้องแล้ววรรณยุกต์รูปตรีต้องใช้กับอักษรกลางเท่านั้น (ซึ่งอักษรกลางมีเพียง 9 ตัว คือ ก จ ด ต ฎ ฏ บ ป และ อ) คำผิดที่พบคือ เหร๊อออ (ต้องเขียนว่า เหรอ) ห๊ะ (ต้องเขียนว่าฮะ หรือ หา) มั๊ย (ต้องเขียนว่า มั้ย) น๊า (ต้องเขียนว่า น้า) แว๊บ (ต้องเขียนว่า แว้บ) หร๊อก (ต้องเขียนว่า หรอก) และ แง๊ (ต้องเขียนว่า แง้) ความน่าแปลกอีกประการหนึ่งคือ นิยายเรื่องนี้กลับใช้อีโมติคอน (emoticon) กับงานแฟนตาซี ทั้งๆ ที่ไม่นิยมกับงานแนวนี้เท่าใดนัก ในขณะที่นิยายแนวหวานแหววที่นิยมใช้ อีโมติคอนก็ลดความนิยมลงไปแล้ว เพราะบางครั้งอีโมติคอนไม่สามารถสื่อความกับผู้อ่านทุกคนได้ และบางครั้งสารที่ผู้เขียนส่งมาพร้อมกับอีโมติคอนกับสารที่ผู้อ่านตีความก็อาจไม่ตรงกันก็ได้ ขณะเดียวกัน การใช้ภาษาบรรยายความรู้สึกสามารถให้รายละเอียดได้ครอบคลุมและชัดเจนมากกว่าการใช้อีโมติคอน จึงเห็นว่า Lady Drama ควรใช้บทบรรยายแทนอีโมติคอนก็น่าจะทำให้สื่อสารได้ชัดเจนและตรงตามความตั้งใจมากขึ้น ----------------------------- อ่านน้อยลง
bluewhale | 3 มิ.ย. 54
8
1
ดูทั้งหมด
"บทวิจารณ์ Shaman Adventure ไปลุยนรกกับพี่สักสิบปีมั๊ยน้อง?"
(แจ้งลบ)นิยายแนวแฟนตาซีเรื่อง Shaman Adventure: ไปลุยนรกกับพี่สิบปีดีมั๊ยน้อง? ของ Lady Drama (โลมาสีฟ้า) กระตุ้นความสนใจให้อยากอ่านตั้งแต่ชื่อเรื่องแล้ว และเมื่ออ่านเรื่องที่โพสต์ไว้จำนวน 11 ตอนก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะเป็นเรื่องของเอกภพ หมอผีรุ่นเยาว์จากอยุธยา กับ “ไอ้จุก” กุมารทองลูกรัก ที่รู้จักการใช้คาถาและควายธนูเพื่อปราบบรรดาผีๆ แบ ... อ่านเพิ่มเติม
นิยายแนวแฟนตาซีเรื่อง Shaman Adventure: ไปลุยนรกกับพี่สิบปีดีมั๊ยน้อง? ของ Lady Drama (โลมาสีฟ้า) กระตุ้นความสนใจให้อยากอ่านตั้งแต่ชื่อเรื่องแล้ว และเมื่ออ่านเรื่องที่โพสต์ไว้จำนวน 11 ตอนก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะเป็นเรื่องของเอกภพ หมอผีรุ่นเยาว์จากอยุธยา กับ “ไอ้จุก” กุมารทองลูกรัก ที่รู้จักการใช้คาถาและควายธนูเพื่อปราบบรรดาผีๆ แบบไทย แต่ต้องหลุดเข้าไปยังดินแดนแฟนตาซีที่มีตั้งแต่มังกร ปีศาจ พ่อมด และสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อน พวกเขาจะประยุกต์สิ่งที่รู้เพื่อเอาตัวรอดจากบรรดาปีศาจและสัตว์แปลกๆ ในดินแดนใหม่นี้ได้หรือไม่ อย่างไร ความน่าติดตามของนิยายเรื่องนี้อยู่ที่ว่าทิศทางของเรื่องปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาจนไม่อาจคาดเดาได้ จากเดิมคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดในเรื่องนี้คือการพยายามหาทางกลับบ้านของเอกภพและจุก แต่เมื่อเรื่องเริ่มดำเนินไปก็ไม่แน่ใจแล้วว่าอะไรคือภารกิจหลักของเขาทั้งสองที่ผู้เขียนต้องการกันแน่ เพราะเมื่อเอกภพและจุกได้พบกับเดลฟี่ที่ถูกปีศาจเดลฟีโก้เข้าสิง พวกเขาก็ดูเหมือนว่าพร้อมที่จะเปลี่ยนเป้าหมายตนเองเพื่อหาทางช่วยนำวิญญาณของเดลฟีโก้ออกจากร่างเดลฟี่ให้จงได้ แต่ต่อมาเรื่องก็กลับพลิกผันอีก เมื่อเอกภพทำสัญญากับเดลฟีโก้ว่าเขาจะช่วยทำเขากลายเป็นปีศาจแห่งความมืด เพราะเป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยให้เขาตามหาร่างที่แท้จริงของเขาจนเจอ เพื่อจะได้กลับไปยังหมู่บ้านของตนได้เสียที ขณะเดียวกัน Lady Drama ก็เริ่มปูเรื่องให้เอกภพมีความสามารถคล้ายคลึงกับซาแมน (ผู้ที่มีความสามารถในการคุมวิญญาณและซากศพได้) ซึ่งซาแมนนับเป็นบุคคลสำคัญและเป็นที่ต้องการของทุกอาณาจักรในขณะนี้ การเปลี่ยนแปลงจุดเน้นของเรื่องไปในหลากหลายทิศทางเช่นนี้ ทำให้โครงเรื่องหลัก (plot) ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของนิยายพร่าเลือนไปอย่างน่าเสียดาย จนไม่อาจแน่ใจว่านักเขียนต้องการจะนำเสนอเรื่องราวใดกันแน่ ด้วยเหตุนี้จึงอยากให้ Lady Drama เน้นแก่นเรื่องหลักที่ต้องการเสนอให้ชัดเจนมากขึ้นก็จะช่วยให้ผู้อ่านจับทิศทางของเรื่องได้มากกว่านี้ นิยายเรื่อง Shaman Adventure: ไปลุยนรกกับพี่สิบปีดีมั๊ยน้อง? นับว่าแตกต่างจากนิยายแนวแฟนตาซียอดนิยมทั้งหลาย เพราะเรื่องนี้นำแฟนตาซีแบบไทยๆ คือความเชื่อทางไสยศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็น หมอผี กุมารทอง ควายธนู คาถา หม้อดิน มีดหมอ และวิธีการไล่ผีต่างๆ มาผสานกับแฟนตาซีแบบตะวันตก ทั้งเรื่องราวของปีศาจ มังกร หรือพลังเวทต่างๆ ได้อย่างลงตัว ซึ่งสร้างความน่าสนใจให้กับเรื่องได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน ในเรื่องนี้ดูเหมือนว่า Lady Drama จะเปิดทางให้ไสยศาสตร์แบบไทยดูมีความขลังและดูจะมีพลังเหนือว่าพลังเวทแบบตะวันตกเสียอีก โดยเฉพาะฉากการปราบปีศาจเดลฟีโก้ ปีศาจผู้ชั่วร้ายที่คอยยื่นข้อเสนอต่างๆ ให้กับมนุษย์เพื่อแลกเปลี่ยนกับสิ่งที่มันต้องการ จะเห็นได้ว่าคนทั้งหมู่บ้านแอปเปิ้ลสีทองร่วมกันใช้พลังเวทที่มีทั้งหมดแล้ว ก็ไม่อาจจะเป็นคู่ต่อสู้ของปีศาจตนนี้ได้ แต่ท้ายที่สุดเดลฟีโก้ต้องสยบยอมให้กับการสะกดวิญญาณและการบริกรรมคาถาบูชาพุทธคุณของเอกภาพแทน ขณะเดียวกัน Lady Drama ไม่เพียงแต่ใช้ความรู้ทางไสยศาสตร์ที่ติดตัวมาของเอกภพเพื่อต่อสู้กับปีศาจร้ายเท่านั้น แต่เขายังต้องประยุกต์สิ่งที่ตนรู้เข้ากับการดำรงชีวิตเพื่อเอาตัวรอดในดินแดนใหม่แห่งนี้ไปพร้อมกันด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเพ่งกสินเพื่อจุดกองไฟประกอบอาหาร การใช้พลังคาถาเหล็กไหลเพื่อเสกให้ใบไม้กลายเป็นมีดใช้สำหรับประกอบอาหาร หรือแม้แต่การบริกรรมคาถาสร้างความแข็งแกร่งให้ไอ้จุก เพื่อไปจับหมูป่ามาเป็นอาหาร ขณะเดียวกันเมื่อเอกภพหลงมายังดินแดนใหม่นี้อย่างไม่ตั้งใจ เขาก็ไม่ได้เป็นเหมือนกับพระเอกนิยายแฟนตาซีทั่วไป ที่มักจะปรับตัวเข้ากับโลกใหม่ด้วยการเรียนรู้พลังเวทต่างๆ แต่เขาก็ยังติดกับความชำนาญเดิมๆ เพราะเมื่อมีโอกาสก็แสวงหาสิ่งที่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็น เทียนไข เชือก ด้าย เข็ม ตุ๊กตาผ้า เมล็ดข้าว หม้อ หวาย หรือมีดดีๆ (เพื่อทำมีดหมอ) ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ก็นับเป็นอาวุธและเครื่องมือทำมาหากินสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับหมอผีไทย นอกจากนี้ยังเห็นว่านักเขียนสอดแทรกความเห็นของตนเข้ามาเป็นระยะๆ ด้วยกลวิธีต่างๆ นับตั้งแต่การสะกิดผู้อ่านเพื่อบอกว่ากำลังจะเปลี่ยนทิศทางของเรื่อง เช่น “ตัวเอกของเรื่องจึงถูกเปลี่ยนเป็นเดลฟี่และดาลีนด้วยประการฉะนี้...” อีกทั้งยังให้ตัวละครออกมาเขียนเหน็บแนมนักเขียน เช่น “ ‘ดูเหมือนเรื่องนี้มันจะซับซ้อนกว่าที่เราคิดนะเนี้ย’ และดูเหมือนเขาจะถูกคนเขียนสกัดดาวรุ่งเข้าให้อีกแล้วนะเนี้ย เฮ้อ...ช้ำใจจริงๆ” และยังวิพากษ์และล้อเลียนนิยายแฟนตาซีแนวโรงเรียนไว้อย่างเด่นชัดมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากที่กล่าวถึงวิทยาลัยเรดดิคอฟ ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำที่เก่าแก่ มีชื่อเสียง และสำคัญที่สุดของอาณาจักร ลักซอล์ โดยให้เอกภพเป็นคนแสดงความเห็นว่าเขาไม่คิดจะเข้าไปเรียนในโรงเรียนแห่งนี้ว่า “แล้วไอ้เรดดิคอฟเนี้ยได้ชื่อว่าระบบรักษาความปลอดภัยเยี่ยมสุดๆ และมีคนสำคัญอยู่ในนั้นเยอะใช่มั้ย การที่เราเข้าไปเป็นนักเรียนในนั้นแล้วคิดจะชิ่งออกมาเงียบๆ ล่ะก็คงเป็นเรื่องยากซะยิ่งกว่ายาก ฉันเห็นมาหลายเรื่องแล้ว อิตอนที่พวกตัวเอกของเรื่องจะแอบหนีออกจากโรงเรียนหลังเสร็จภารกิจ เห็นแต่ได้เลือดบวกปางตายกันแทบทั้งนั้น หรือไม่ก็ไปพบมิตรภาพแสนงดงามในโรงเรียนจนลืมว่าตัวเองเข้าไปทำอะไร ต่อมาดันมีพ่อเป็นพระราชาโผล่มาจากไหนไม่รู้ กลายเป็นไฮโซแถมโดนศัตรูปองร้ายจนต้องสู้มันแทบทั้งเรื่อง ... ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมอยู่ๆ ระบบรักษาความปลอดภัยของโรงเรียนดันมาห่วยแตกเอาตอนศัตรูจะบุกมาฆ่าทุกทีก็ไม่รู้” ในเรื่องนี้ ความโดดเด่นของรูปร่างหน้าตาตัวละครดูจะไม่ใช่สิ่งสำคัญที่นักเขียนสนใจ มากเท่ากับลักษณะนิสัยเฉพาะของตัวละคร เพราะผู้อ่านจะจำจดตัวละครแต่ละตัวได้จากลักษณะเฉพาะตัวอันโดดเด่นมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเอกภพ หมอผีวัยรุ่นที่เก่งเรื่องเวทมนตร์คาถา แต่แพ้เลือดที่พุ่งใส่ จุก กุมารทองวัย 2-3 ชวบ ที่บ้าการ์ตูน และมีอุลตราแมนเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ในดวงใจ หรือ เดลฟีโก้ ปีศาจที่ชั่วร้ายที่สุด มีพลังเวทสูง และมีไฟนรกเป็นอาวุธ แต่รักษาสัจจะและไม่เคยผิดสัญญากับใคร แม้แต่สัญญากับมนุษย์ก็ตาม นอกจากนี้ อารมณ์ขันที่แทรกอยู่เป็นระยะๆ ก็สร้างความสนุกสนานและชวนติดตาม โดยเฉพาะความคิดแบบเด็กๆ ของจุก ที่พบมังกรตัว “เป็นๆ” ครั้งแรกก็เรียกมังกรว่า “ควายธนู” แต่เมื่อเอกภพแก้ความเข้าใจผิดว่านี่คือมังกร ซึ่งก็เหมือนกับท่านเชนลอน ตัวละครในการ์ตูนเรื่องดาร์กอนบอล ผิดกันก็แค่สีผิวเท่านั้น จุกก็เปลี่ยนท่าทีปฏิบัติกับมังกรตัวนั้นราวกับแฟนคลับปฏิบัติกับซุปเปอร์สตาร์ในดวงใจ หรือการที่ให้มังกรส่งเสียงร้องอย่างตกใจที่โดนผีหลอก เมื่อจู่ๆ จุกก็หายตัวไปต่อหน้าต่อตา ผู้วิจารณ์พบว่าปัญหาในการเขียนของ Lady Drama ไม่ได้อยู่ที่ภาษาเขียน ทั้งในส่วนของบทบรรยายและบทสนทนา แต่ปัญหากลับไปอยู่ที่คำผิด ซึ่งกระจายอยู่โดยตลอดเรื่อง คำผิดที่พบ คือ กะพริบตา เขียนเป็น กระพริบตา ขู่เข็ญ เขียนเป็น ขู่เข็น มอเตอร์ไซค์ เขียนเป็น มอเตอร์ไซน์ กรงเล็บ เขียนเป็น กงเล็บ บริกรรมคาถา เขียนเป็น บริกรรมคาทา ทรมาน เขียนเป็น ทรมาณ อานิสงส์ เขียนเป็น อานิสงค์ อำมหิต เขียนเป็น อัมหิต แข็ง เขียนเป็น แขง เหรอ / หรือ เขียนเป็น หรอ แล้วไง / แล้วอย่างไร เขียนเป็น แล้วไหง่ นอกจากนี้ยังมีการใช้คำผิดความหมาย เช่น หมูป่ามีผมสีส้มอยู่บนหัวหย่อมหนึ่ง น่าจะเปลี่ยนเป็น หมูป่ามีขนสีส้มอยู่บนหัวหย่อมหนึ่ง และคำที่ผิดอีกส่วนหนึ่งมาจากการใช้คำที่มีรูปวรรณยุกต์ตรี (หรือไม้ตรี) เพราะ Lady Drama ใช้อักษรต่ำกับรูปวรรณยุกต์ตรีเสมอ ทั้งๆ ที่หลักภาษาไทยที่ถูกต้องแล้ววรรณยุกต์รูปตรีต้องใช้กับอักษรกลางเท่านั้น (ซึ่งอักษรกลางมีเพียง 9 ตัว คือ ก จ ด ต ฎ ฏ บ ป และ อ) คำผิดที่พบคือ เหร๊อออ (ต้องเขียนว่า เหรอ) ห๊ะ (ต้องเขียนว่าฮะ หรือ หา) มั๊ย (ต้องเขียนว่า มั้ย) น๊า (ต้องเขียนว่า น้า) แว๊บ (ต้องเขียนว่า แว้บ) หร๊อก (ต้องเขียนว่า หรอก) และ แง๊ (ต้องเขียนว่า แง้) ความน่าแปลกอีกประการหนึ่งคือ นิยายเรื่องนี้กลับใช้อีโมติคอน (emoticon) กับงานแฟนตาซี ทั้งๆ ที่ไม่นิยมกับงานแนวนี้เท่าใดนัก ในขณะที่นิยายแนวหวานแหววที่นิยมใช้ อีโมติคอนก็ลดความนิยมลงไปแล้ว เพราะบางครั้งอีโมติคอนไม่สามารถสื่อความกับผู้อ่านทุกคนได้ และบางครั้งสารที่ผู้เขียนส่งมาพร้อมกับอีโมติคอนกับสารที่ผู้อ่านตีความก็อาจไม่ตรงกันก็ได้ ขณะเดียวกัน การใช้ภาษาบรรยายความรู้สึกสามารถให้รายละเอียดได้ครอบคลุมและชัดเจนมากกว่าการใช้อีโมติคอน จึงเห็นว่า Lady Drama ควรใช้บทบรรยายแทนอีโมติคอนก็น่าจะทำให้สื่อสารได้ชัดเจนและตรงตามความตั้งใจมากขึ้น ----------------------------- อ่านน้อยลง
bluewhale | 3 มิ.ย. 54
8
1
"สวัสดี...ข้าพเจ้า Black_teddy จาก ((รับวิจารณ์นิยายเเบบอ่านจริงไม่เม้นมั่วBY MONKEY'FRIEND))"
(แจ้งลบ)1. การใช้ภาษา (8/10) -มีคำผิดนะจ๊ะ จะไล่บอกเป็นตอนๆไปนะ เพื่อสะดวกในการแก้ไข (Intro หรือบทนำ ให้นับเป็นตอนหนึ่ง) *คำผิดจากตอนที่ 1: (Intro) ตรงสรรพนามที่แนะนำตัวอาจารย์คง ไรทเตอร์ใช้แทนว่า มัน ซึ่งควรใช้คำว่า "เขา" แทนมากกว่า เพราะอาจารย์คงเป็นผู้ชาย ถ้าในบทบรรยายเราต้องใช้สรรพนามให้ถูกต้อง คนเป็นเขา เธอ ท่าน หรือถ้าเป็น สัตว์ สัตว์ประหลา ... อ่านเพิ่มเติม
1. การใช้ภาษา (8/10) -มีคำผิดนะจ๊ะ จะไล่บอกเป็นตอนๆไปนะ เพื่อสะดวกในการแก้ไข (Intro หรือบทนำ ให้นับเป็นตอนหนึ่ง) *คำผิดจากตอนที่ 1: (Intro) ตรงสรรพนามที่แนะนำตัวอาจารย์คง ไรทเตอร์ใช้แทนว่า มัน ซึ่งควรใช้คำว่า "เขา" แทนมากกว่า เพราะอาจารย์คงเป็นผู้ชาย ถ้าในบทบรรยายเราต้องใช้สรรพนามให้ถูกต้อง คนเป็นเขา เธอ ท่าน หรือถ้าเป็น สัตว์ สัตว์ประหลาดให้ใช้ มัน ในกรณีที่ต้องการใช้สรรพนามบุรุษที่สามแทน เด็กหนุ่มตาเเบกโพล่ง ต้องเป็น เด็กหนุ่มตาเบิกโพลง สุ๊ดยอด >> สุดยอด (ไม่ต้องเติมวรรณยุกต์ เพราะว่าจะกลายเป็นภาษาวิบัติในงานเขียนโดยไม่ตั้งใจ) *ตอนที่สอง : ใครบังอาจมาล้อเลียนท่านเอกภพผู้นี้ฟ่ะ "ฟ่ะ" เป็น ฟะ แล้วก็ ห๊ะ >>ฮะ และคำศัพท์ที่ใช้กับพระสงฆ์มีสองจุดที่อ่านแล้วรู้สึกตงิดๆ คือ คำว่าล้มหมอนนอนเสื่อ เราเอาไว้ใช้กับบุคคลทั่วไปในการพูดคุย แต่ในบทบรรยายเราต้องใช้ศัพท์ให้ถูกต้อง และตรงหลวงตาป่วยให้ใช้เป็น หลวงตาอาพาธ เพราะอาพาธเป็นศัพท์ที่ใช้กับพระสงฆ์ ส่วน "มหา'ลัย" เราสามารถใช้ในบทสนทนาระหว่างตัวละครได้ แต่ในบทบรรยายไม่ควรใช้ ควรใช้คำว่า "มหาวิทยาลัย" แทน *ตอนสาม : "วันนี้จะกินอะไรดีน๊า" น๊า >> น้า ถ้าเติมไม้ตรีแล้ว วิบัติทันทีเลยนะจ๊ะ *ตอนสี่ :ไม่มีคำผิดจ้ะ *ตอนห้า : "ไม่ได้กินหมูหันดีๆแบบนี้หร๊อก" >> หรอก(ไม่ต้องเติมไม้ตรี) "บ่นเป็นตาแก่ขณะใช้เท้าเขี้ย" >>เขี่ย อ้ะจ๊าค >> อะจ้าก *ตอนเจ็ด: นะค้าบ >> นะคร้าบ *ตอนแปด : หึหึหึหึ ให้เติมไม้ยมกไปเลยจ้ะ หึๆๆๆๆๆ *ตอนเก้า : สลบสไล >> สลบไสล "ไม่เห็นตะยากตรงไหนเลยลุง ผมเป็นปราบปีศาจตนนี้จริงมั๊ย" ไรเตอร์ตกคำว่า "คน" ผมเป็นคนปราบปีศาจ...ง *ตอนสิบเอ็ด : ชีวิติ >>ชีวิต (เป็นคำผิดที่อาจเกินจากความผิดพลาด 55+ ประมาณพิมพ์เพลินของไรทเตอร์ - ในภาคการบรรยายถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว บรรยายได้ลื่นไหลและฮามาก ปรับปรุงเรื่องคำผิดอีกนิดเท่านั้นเอง 2. เนื้อเรื่อง+ตัวละคร (10/10) -เป็นนิยายที่มีพล็อตแปลกมากๆๆๆๆๆๆๆ เนื้อเรื่องไม่เหมือนใครดี แล้วก็ฮามาก เป็นนิยายที่ร่วมสมัยแต่ไม่ทิ้งกลิ่นอายความเป็นไทยไปสักนิด โดยส่วนมากแล้วนิยายแฟนตาซีจะมีตัวเอกที่มีชื่อเรียกยากมากๆ ออกไปทางยุโรปซะส่วนใหญ่ แต่ตัวเอกเรื่องนี้กับมีชื่อเป็นไทย มีวิถีชีวิตแบบไทยๆ และชื่อตัวละครจำง่าย พื้นๆแต่ว่ามีเอกลักษณ์ที่จดจำได้ดี เป็นเนื้อเรื่องที่ถ้ามองเผินๆก็นึกว่าธรรมดา ทะลุมิติอะไรแบบนี้ แต่ถ้าลองอ่านนิยายเรื่องนี้แล้วจะรู้ว่า "เนื้อเรื่องไม่ธรรมดาเลยนะเธอ" ๕๕ 3. ความคิดสร้างสรรค์/น่าสนใจน่าติดตาม (10/10) -เป็นนิยายที่น่าติดตามมากๆ สร้างสรรค์ตรงที่พล็อตเรื่องและกลิ่นอายความเป็นไทยที่นิยายเรื่องนี้เอาไปผสมกับความเป็นตะวันตก นักเขียนกล้าที่จะฉีกกรอบของนิยายแฟนซีมากๆ พระเอกไม่ได้เก่งฉกาจโอเวอร์ปล่อยพลังตู้มต้าม ไม่ได้ฉลาดอัจฉริยะ ดูบ้านๆ รั่วๆ แถมยังมีพลังคุณไสย เป็นนิยายที่น่าติดตามและน่าดันให้ติดท็อปมากๆ (ว่าแต่จะติดท็อปแฟนซีหรอ ติดท็อปขำขันดีกว่ามั้ง ๕๕ ล้อเล่นจ้ะ) 4. การจัดหน้า+ตกเเต่งหน้าบทความ (8.5/10) -เมื่อขึ้นตอนใหม่ หรือ สถานการณ์ใหม่ ให้ย่อหน้าด้วยการกด tab เพื่อให้ตัวอักษรไม่ดูมาชิดขอบเกินไป แต่ขนาดตัวอักษรและฟอนต์โอเค.แล้ว -การตกแต่งบทความดูเรียบง่ายดี อยากให้มีแผนที่ของอาณาจักรที่เอกภพและเจ้าจุกหลงไปมาเพื่ออรรถรสในการอ่าน แล้วก็อิมเมจของตัวละครเอาของเดลฟี่ และเดลฟีโก้ ด้วยก็ดีนะ :) -Banner จะทำก็ได้เพื่อเป็นการโปรโมตนิยายเราให้คนคลิกเข้ามาดู 5. ข้อนี้จะวิจารณ์ตามประเภทนิยายค่ะ+คะเนนพิเศษ (10/10) -เป็นนิยายที่เริ่ดมากเรื่องนึง ในด้านภาษาการบรรยายอะไรนักเขียนต้องฝึกเอาเองเพราะนักเขียนแต่ละคนจะมีสำนวนการเขียนที่แตกต่างกัน พอเขียนไปเรื่อยๆเนื้อเรื่องจะเข้มข้นขึ้นมา ถามว่าเดี๋ยวนี้นิยายแฟนตาซีเยอะไหม ตอบเลยว่าเยอะพอๆกับรักหวานแหวว พล็อตเรื่องเกลื่อนไหม ตอบเลยว่า เกลื่อนและพล็อตซ้ำกันเยอะมาก แต่นิยายของคุณแหวกออกมาได้แล้ว คือไม่เหมือนกับนิยายแฟนตาซีทั่วไป เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วหน้าที่ของคุณคือการประคองนิยายเรื่องนี้ให้จบ และข้าน้อยนักอ่านตาดำๆคนนี้อยากจะเฝ้ารอว่าสักวันนึง "Shaman Adventure" จะได้ตีพิมพ์เป็นเล่มออกมา :) 6. ภาพรวม(ทั้งหมด) + คะเเนน เต็ม100 -ปรับปรุงคำผิดและก็อัพบ่อยๆ เป็นนิยายที่ไม่เหมือนใครดี ทำมาได้ขนาดนี้แล้วก็ทำต่อไปล่ะ อย่าทำให้ฟ้าผิดหวัง :') นักอ่านต่างหากล่ะ55 95.5/100 :'D ลงชื่อผู้วิจารณ์ Black_teddy อ่านน้อยลง
black-teddy | 23 ก.พ. 54
10
0
ดูทั้งหมด
ความคิดเห็น